นานเกินไป! กลัวสนิมเกาะนักเตะฟุตบอล อาร์เซน่อล
เบรกฟีฟ่าเดย์ของอาร์เซน่อลยาวนานกว่าหลายทีมเล็กน้อย นัดล่าสุดก่อนหวดสโต๊ค ซิตี้ คือ เกมกับเอซีมิลาน ในศึกยูโรปา ลีก วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม สุดสัปดาห์นั้น ปืนใหญ่ ไม่มีคิวทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ ที่ตกรอบไปก่อนหน้า รวมแล้วเว้นช่วงนาน 17 วัน
ตัวหลักบางคนยังมีเกมทีมชาติให้ลงสนาม แต่ก็มีอีกครึ่งค่อนทีมที่เกมที่เหมือนพักเบรกครึ่งฤดูกาลแต่เกิดขึ้นในท้ายฤดูกาล นี่อาจเป็นสาเหตุในเกมครึ่งแรกกับช่างปั้นหม้อ มีบรรยากาศไม่ต่างจาก “ปรีซีซั่น” ที่เงียบเหงา ซบเซา และชวนง่วงนอนยิ่งนัก
เหลือบมองขึ้นบนอัฒจันทร์ที่มีแฟนบอลโหรงเหรง “ที่นอน” เหลือพอ ๆ กับ “ที่นั่ง” ยิ่งพาลคิดไปว่าต้องไม่ใช่ช่วง 50 เมตรสุดท้ายของฤดูกาลที่การแข่งขันสุดเข้มข้นแน่นอน
โฆษกสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ประกาศยอดแฟนบอล 59,371 ขาดเหลือไม่ถึงห้าร้อยก็เต็มความจุ!!
นักข่าวฝรั่งแอบแซวว่า นี่คือการเล่นมุก “April Fool” หรือวันโกหกของอาร์เซน่อลที่ต้องให้ 3 ผ่านเพราะดูยังไงก็ไม่มีทางถึงห้าหมื่น…ภาพที่ทุกคนเห็นฟ้องอยู่ทนโท่
สาเหตุไม่ใช่เรื่องเข้าใจยาก หลายคนเบื่อหน่ายกับผลงานของทีมพอๆ กับใบหน้าของ อาร์แซน เวนเกอร์
เมื่อการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซือยังไม่เกิดขึ้น การเลือกหันหลังให้กับทีม “ชั่วคราว” คือสิ่งที่พึงกระทำได้ เป็นการแสดงออกในเชิงประท้วง
ในขณะที่แฟนบอลทีมอื่นถวินหาเกมการแข่งขันระดับสโมสรและนับวันรอให้ทีมรักลงสนาม ไม่ต้องการเกมทีมชาติมาคั่นให้เสียอารมณ์ แต่แฟนบอลปืนใหญ่หลายคนกลับไม่รู้สึกอยากพาตัวเองฝ่าลมฝน (ทั้งที่เข้าสู่ซัมเมอร์แล้ว) มาที่สนามเพราะไร้ซึ่งแรงจูงใจ
นี่คือเรื่องน่าห่วงที่มีผลโดยตรงมาจากผลงานอันน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ ไม่แปลกที่มีบางคนเลือกชิ่งออกจากสนามแล้วมุดเข้าผับหาเบียร์สาดลงคอพร้อมแทงพลูแก้เซ็งดีกว่า
เวนเกอร์ จัดชุดผสมลงสนาม ตัวหลักอย่าง โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, กรานิต ชาคา และ เฮนริค มคิทาร์ยาน เป็นเพียงสำรองเพราะมีเกมสำคัญกับซีเอสเคเอ มอสโก ในศึกยูโรปา ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศรออยู่กลางสัปดาห์
ปีเตอร์ เช็ก หายไปอีกคนหลังมีอาการเจ็บโคนขอหนีบ ทำให้ ดาวิล ออสปิน่า ได้เฝ้าเสา ส่วนข้างสนามมีข่าวดี อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ หายเจ็บกลับมามีชื่ออีกครั้ง
เมซุต โอซิล กับ แจ็ค วิลเชียร์ ที่ถอนตัวจากทีมชาติฟิตลงสนามทั้งคู่เพราะไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย ส่วน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ได้ฝึกซ้อมกับทีมเต็มเหนี่ยว เนื่องจากไม่ได้เดินทางมาไทยทำศึกคิงส์คัพ หลังคุณยายเสียกะทันหัน
ตลอด 45 นาทีแรก ลากยาวจนถึง 20 นาทีของต้นครึ่งหลัง อาร์เซน่อล เล่นในเกมถนัดของตัวเองไม่ได้เลย เพราะสโต๊ค ซิตี้ วางแผนมาดีมาก
ช่างปั้นหม้ออยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ โอกาสตกชั้นสูงลิบ และมาเยือนเอมิเรตส์โดยที่ไม่ชนะใคร 7 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ ยังเป็นทีมเดียวในลีกที่ไม่ชนะเลยนอกบ้าน นั่นจึงทำให้พวกเขาเน้นสุดๆ เพื่ออย่างน้อย 1 คะแนนติดมือ
พอล แลมเบิร์ต กำชับลูกทีมยืนคุมพื้นที่กันให้แน่น สมาธิห้ามหลุด และเข้าประชิดตัวให้เร็วเพื่อไม่ให้อาร์เซน่อลพลิกเล่นได้ แข้งปืนใหญ่จึงไม่สามารถต่อบอลได้ถนัดเพราะตัวเลือกที่จะจ่ายบอลให้โดนประกบติดหนึบ แข้งโต๊ค จ้องชิงตัดหน้าและสวนกลับทันทีเปลี่ยนจากรับเป็นรุกในทันที
โอบาเมย็อง เริ่มโดดเดี่ยวจนต้องฉีกออกด้านข้างไปรับบ่อยครั้ง ขณะที่ แดนนี่ เวลแบ็ค ก็วิ่งแบบไร้ทิศทางและไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเช่นเคย 5 ปีก่อน แลมเบิร์ต เคยใช้แท็กติกทำนองนี้พาแอสตัน วิลล่า บุกมาโค่นปืนใหญ่ถึง 3-1 ในนัดเปิดสนามฤดูกาล 2013/ 14
วันนั้นผมเห็นเหตุการณ์คาตัว จำได้ไม่เคยลืมเพราะไปดูอาร์เซน่อลที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรกในชีวิต ความรู้สึกซ็อกยังอุ่นๆ ไม่ได้จางหายไปเพราะวิลล่าเป็นรองทุกกระบวนท่า ทว่าเก็บชัยชนะกลับออกไปหน้าตาเฉย ส่วนตัวผมโดนอำและไม่เหลือชิ้นดี
เริ่มครึ่งหลังที่รูปเกมยังไม่ได้ดีขึ้นก็แอบหวั่นใจประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย และยิ่งในฤดูกาลนี้ยิ่งแล้วใหญ่ บทจะแพ้ก็ไปแบบดื้อๆ ไม่ต้องมีเหตุผลมากมาย เมซุต โอซิล รอโอกาสจนถึงนาที 71 ถึงมองเห็นช่องได้แทงทะลุให้ โอบาเมย็อง หลุดเดี่ยว แต่หัวหอกกาบองรอจังหวะมากไปหน่อยจนมุมแคบและยิงติดเซฟ แจ็ค บัตแลนด์
การยืนตำแหน่งของสโต๊ค ซิตี้ เริ่มมีรอยโหว่ เรี่ยวแรงชักเหลือน้อยหลังไล่เพรสหนักมาหลายสิบนาที ทำให้ 20 นาทีท้ายคือช่วงเวลาที่อาร์เซน่อลไล่แก้ปม ปลดล็อกในเกมรับที่แลมเบิร์ตเซตมาอย่างดีลงได้สำเร็จ
จุดเปลี่ยนสำคัญคือ จุดโทษในนาที 75 มาร์ติน อินดี้ กองหลังดัตช์ แหย่เท้าโดนบอลก่อนเล็กน้อยจริงๆ แต่จังหวะเข้าจากด้านหลังและไปขัดขาโอซิล ก็ชัดเจนมากพอที่ผู้ตัดสินจะมอบโอกาสทองให้เจ้าบ้าน
พอล แลมเบิร์ต ออกมาบ่นตามคาดว่าผู้ตัดสินทำให้เกมเปลี่ยนอย่างแท้จริง ทุกอย่างที่วางแผนและลงมือทำจริงกลับสูญเปล่า แต่ลูกโทษทั้งสองลูกที่อาร์เซน่อลได้ก็ถือว่าสมควรได้ ท้ายเกม บาดู เอ็นดิอาย ก็ไปกระแทก ลากาแซตต์ จากด้านหลังแบบไม่จำเป็น
เห็นได้ชัดว่าเพราะสมาธิในเกมรับเริ่มหลุด และอาร์เซน่อลเห็นช่องเพียบจนรูปเกมดีขึ้นชัดเจน แข้ง สโต๊คก็ออกอาการหงุดหงิด มีฟาวล์หนักๆ แบบไม่จำเป็น จุดโทษสองลูกก็ชัดเจน แค่วิ่งตามประคองก็ปิดมุม ลากาแซตต์ ได้แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ต้องไปเล่นแบบนั้น
การลงสนามของบรรดาสำรองทั้ง ลากาแซตต์, ชาคา และ มคิทาร์ยาน ที่สดกว่าช่วยดึงตัวประกบของสโต๊คได้เป็นอย่างดี อาร์เซน่อลจึงได้โอกาสนวดและเล่นในสิ่งที่ตัวเองถนัด…เสียที
3-0 และ 3 คะแนนสำคัญถือว่าเป็นไปตามเป้าแต่ เวนเกอร์ ต้องไม่ลืมว่าช่วง 70 นาทีแรกเล่นได้น่าผิดหวังจริง พวกเขาใช้เวลานานเกินไปในการเจาะเกมรับทีมท้ายตารางในบ้านตัวเองแบบนี้ แถมเล่นเอื่อยเฉื่อยจนโดนเสียงโห่หลายครั้งกว่าเครื่องจะร้อนได้ หากโดนสโต๊คฉวยโอกาสนำไปก่อน คงเต้นเป็นเจ้าเข้าแน่นอน นัดนี้ถือว่ารอดตัวไป และยังพอมีด้านบวกให้พูดถึงก่อนหน้าเกมสำคัญรับมือซีเอสเคเอ มอสโก
ลากาแซตต์ หายเจ็บกลับมาได้ทันเวลา และต้องขอบคุณ โอบาเมย็อง ที่เสียสละแฮตทริก ไม่ขอยิงเองในจุดโทษลูกสอง แต่เลือกให้หัวหอกชาวฝรั่งเศสรับหน้าที่
“ผมทำไปแล้ว 2 ประตู ดังนั้น ผมจึงให้ลากาแชตต์ยิง มันเป็นเรื่องดีสำหรับความเชื่อมั่นของเขา”
แบบนี้ได้ใจทั้งเพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล แถมตัวเองยังรักษาแรงกระตุ้นไว้สำหรับนัดต่อไป มุ่งมั่นทำแฮตทริกแรกในวันหน้าก็ได้
อดีตดาวยิงดอร์ทมุนด์ลงเล่นยูโรปา ลีก ไม่ได้ เพราะติดคัพไท การกลับมาพร้อมยิงประตูได้ของ ลากาแซตต์ จึงสำคัญสุดๆ โดยเฉพาะในถ้วยยูโรปา ลีก ที่รับบทหน้าเป้าตัวจริงแน่นอน (อย่าต้องให้ถึงมือมหาเทพเลย!!!)
นาทีนี้ เวนเกอร์ ควรยอมรับสภาพว่าโอกาสลุ้นท็อปโฟร์แทบเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะห่างจากสเปอร์ส ถึง 13 คะแนน และเหลือเกมลงสนามเพียง 7 นัด
ลุ้นให้ตัวเองชนะทุกนัด และแช่งคู่แค้นร่วมลอนดอนตอนเหนือสะดุดแพ้ 4-5 นัดเป็นอย่างน้อย จึงยากพอๆ กัน ดังนั้น ควรให้ความสำคัญในยูโรปา ลีก มากกว่า และมากที่สุดเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ตั๋วกลับไปเล่นถ้วยใหญ่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
จัดตัวแบบนัดล่าสุดถือว่าโอเค ตัวหลักไม่ระบบมากก่อนเกมสำคัญที่ควรต้องเน้น
ทีนี้ก็จัดเต็มเท่าที่ทำได้ในวันพฤหัสบดี และทุกนัดที่เหลือของยูโรปา ลีก เพราะเป็นความหวังสุดท้ายที่เหลือแล้ว
เสือเตี้ย
ติดตามข่าวสารวงการฟุตบอล ได้ทุกวันที่ casahot98.com